ชิปปิ้งจีน เลือกชนิดของพรมแต่งห้องยังไงให้ห้องดูดีขึ้น
การตกแต่งห้องถือได้ว่าเป็นงานอดิเรกอย่างนึงของผู้ที่ชื่นชอบการดูแลบ้านและดูแลห้อง ซึ่งดี๋ยวนี้ก็มีอุปกรณ์และของตกแต่งบ้านหลากหลายชนิดให้เลือกนำมาตกแต่งบ้านได้อย่างมากมายให้เข้ากับสไตล์ของผู้อยู่อาศัย โดยสิ่งหนึ่งที่จะช่วยตกแต่งห้องของคุณให้น่าอยู่และเพิ่มความสะดวกสบายให้มากขึ้นได้ นั่นก็คือพรมแต่งบ้าน ที่จะช่วยเพิ่มพื้นที่ในการพักผ่อนของคุณให้ดียิ่งขึ้น แต่ว่าจะเลือกอย่างไรดีในเมื่อพรมนั้นก็มีหลายแบบ หลายลาย และหลายชนิดเสียเหลือเกิน ที่จะนำมาตกแต่งห้องให้เข้ากับการใช้งานและสไตล์ของห้องคุณให้ดูดีขึ้นได้ ซึ่งบางคนก็อาจจะยังไม่รู้ว่าพรมแต่งห้องนั้นมีประโยชน์มากกว่าแค่นำมาแต่งห้องให้สวยๆเท่านั้น แต่จะมีอะไรบ้างวันนี้ Weshopchina และชิปปิ้งจีน จะมาบอกประโยชน์ของพรมและมีเทคนิคการเลือกพรมมาฝาก ให้ท่านผู้อ่านได้นำไปเลือกให้ตรงกับการใช้งานและตามความชอบของคุณกันค่ะ
ประโยชน์ของพรมแต่งห้อง
- ช่วยตกแต่งห้งให้สวยงามและสร้างความโดดเด่นให้กับห้อง พร้อมทั้งเพิ่มเอกลักษณ์และแสดงออกถึงสไตล์ของผู้อาศัยว่าเป็นแบบไหนที่แสดงออกมาผ่านการแต่งห้อง
- ให้ความรู้สึกอบอุ่นและความเป็นส่วนตัวของผู้อยู่อาศัยมากยิ่งขึ้น พร้อมทั้งเพิ่มความน่าอยู่ให้ห้องด้วย
- ช่วยเพิ่มความนุ่มสบายให้ห้องเวลาเดิน นั่ง หรือทำกิจกรรมต่างๆให้รู้สึกดีขึ้น
- ช่วยลดการลื่นล้มของผู้อยู่อาศัยและลดแรงกระแทกเวลาเกิดอุบัติเหตุขึ้นมาด้วย
- สามารถช่วยดูดซับเสียงในห้องไม่ให้ออกไปรบกวนข้างห้อง และป้องกัเสียงจากภายนอกให้เข้ามารบกวนได้มากขึ้น
- พรมจะช่วยในการประหยัดพลังงานจากเครื่องปรับอากาศ ทำให้ประหยัดค่าไฟฟ้ามากขึ้นด้วย
เลือกชนิดของพรมแต่งบ้านให้เหมาะกับห้อง
เมื่อรู้แล้วว่าพรมแต่งห้องนั้นมีประโยชน์อะไรบ้าง ทีนี้ก็มาดูกันก่อนว่าพรมแต่งห้องนั้นมีกี่ชนิด และแต่ชนิดนั้นเหมาะกับการใช้งานประเภทไหนบ้าง ซึ่งแต่ละชนิดก็จะมีความแตกต่างทั้งด้านคุณสมบัติ และข้อดีข้อเสียที่ไม่เหมือนกันด้วยค่ะ โดยอย่างแรกนั้นพรมจะแบ่งออกเป็น 3 ประเภทใหญ่ ดังนี้
- พรมที่ทอจากมือ : ก็คือพรมที่ทำจากมือ ไม่ใช้แรงงานเครื่อง โดยจะมีข้อดีคือจะมีการถักทอที่ค่อนข้างประณีตและมีความละเอียดสูงกว่าพรมประเภทอื่นๆ แต่ข้อเสียนั่นก็คือจะมีราคาที่แพงกว่าพรมชนิดอื่นอยู่พอสมควร
- พรมที่ทอจากเครื่อง : พรมประเภทนี้จะมีความหลากหลายมากกว่าพรมทอมือ ทั้งเรื่องขนาดและลวดลาย สามารถหาซื้อได้ง่ายกว่าและมีราคาที่ถูกกว่าพรมทอมือ มีทั้งที่คุณภาพทัดเทียมและคุณภาพด้วยกว่าพรมทอมือ ขึ้นอยู่กับการผลิตอีกที
- พรมสังเคราะห์ : พรมประเภทนี้จะผลิตมาจากใยสังเคราะห์ที่ถูกอัดให้เรียบและทำเป็นแผ่นๆ จะมีความละเอียด ความนุ่ม และความสวยงามน้อยกว่าพรมชนิดอื่น แต่ก็จะมีราคาที่ถูกกว่าพรมชนิดอื่นเช่นกันค่ะ
แต่การเลือกพรมและประเภทของพรมก็ไม่ได้มีแค่นี้เท่านั้น ขั้นต่อมามาดูชนิดของพรมและข้อดีข้อเสียของพรมแต่ละชนิดกัน
ชนิดของพรมและคุณสมบัติของพรมแต่ละชนิด
- พรมไนลอน (Nylon)
พรมนี้เป็นพรมที่มีความนิยมใช้กันมากที่สุด เนื่องจากมีคุณสมบัติที่มีความทนทานมาก อีกทั้งยังสามารถกันน้ำ กันเชื้อรา กันรอยขีดข่วน พร้อมทั้งกันสารเคมีต่างๆด้ และยังดูแลรักษาง่าย อายุการใช้งานนานถึงกว่า 10 ปี อีกทั้งมีสีให้เลือกที่หลากหลาย ดูแลรักษาง่ายราคาไม่แพงมาก แต่มีข้อเสียตรงที่พอใช้ไปนานๆสีอาจจะซีดหากอยู่ในที่ที่โดนแสงแดดมากๆ จึงควรนำไปตกแต่งในบริเวณที่ไม่มีแสงแดดจ้าจะดีกว่า
- โพลีโพรไพลีน (Polypropylene)
พรมชนิดนี้ก็ได้รับความนิยมมาก แต่อาจจะเป็นรองประเภทไนลอนลงมาหน่อย ซึ่งก็ดีก็คือสามารถป้องกันคราบสกปรกได้อย่างดีที่สุด ทำความสะอาดง่าย พร้อมทั้งสามารถป้องกันรอยขีดข่วนและเชื้อราได้ ราคาไม่แพงมาก เหมาะกับการตกแต่งบริเวณห้องนั่งเล่น และบริเวณที่รับน้ำหนักมากๆได้
- พรมโพลีเอสเตอร์ (Polyester)
พรมชนิดนี้จะมีคุณสมบัติสามารถกันน้ำได้ดีที่สุด กันคราบสกปรกได้ และเป็นพรมที่ให้ความรู้สึกหรูหรา เหมาะกับการตกแต่งห้องสไตล์หรูหรา แต่มีข้เสียคือทำความสะอาดยาก ไม่ควรโดดแดดแรงๆเพราะสีจะซีด และไม่สามารถรองรับน้ำหนักมากๆได้ จึงเหมาะกับการนำไปตกแต่งห้องนอนจะเป็นการดีที่สุด
- พรมขนสัตว์ (Wool)
พรมชนิดนี้จะมีราคาแพงที่สุดเมื่อเทียบกับชนิดอิ่นๆ เพราะให้ความหรูหราและผลิตมาจากขนสัตว์ จึงให้ความสัมผัสนุ่ม แต่มีข้อเสียตรงที่ดูแลทำความสะอาดยากและกักเก็บฝุ่นได้มาก จึงไม่เหมาะสำหรับผู้ที่เป็นภูมิแพ้ และมีแมลงต่างๆเข่ามาเกาะแกะพรมได้ ต้องทำความสะอาดเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ
- พรมอะคริลิก (Acrylic)
พรมชนิดนี้เป็นพรมที่ทำเลียนแบบพรมขนสัตว์ จึงมีความไกล้เคียงกับพรมขนสัตว์และให้เนื้อสัมผัสที่นุ่ม แต่จะมีราคาที่ถูกกว่า สามารถกันความชื้นและคราบสกปรกได้ดี แต่อาจจะไม่ทนทานมากและไม่เหมาะแก่การใช้งานหนักมากเท่าไหร่
- พรมโพลีเอทิลีน (Polyethylene)
หรือเรียกว่าพรมรีไซเคิล เพราะพรมชนิดนี้มักจะทำมาจากฝาขวดแล้วนำมารีไซเคิล จึงเป็นพรมที่ดีต่อสิ่งแวดล้อม และสามารถป้องกันคราบสกปรกได้ดี ข้อดีคือไม่มีขนจากเนื้อผ้าจึงเหมาะสำหรับผู้ที่เป็นภูมิแพ้ เพราะว่าเป็นสัสดุจากพลาสติก จึงไม่เก็บกักฝุ่น และมีราคาที่ถูก แต่อาจจะมีข้อเสียตรงที่เนื้อสัมผัสอาจจะไม่นุ่มมากเมื่อเทียบกับพรมชนิดอื่นๆ
การเลือกใช้พรมนั้นควรเลือกจากลักษณะการใช้งาน ว่าเราจะนำพรมนั้นไปวงไว้ตรงที่ไหนของบ้าน เช่น ห้องนอน ห้องรับแขก ตามทางเดิน เป็นต้น ซึ่งแต่ละบริเวณนั้นก็จะมีการใช้งานในลักษณะที่ไม่เท่ากัน หากว่าจะนำพรมไปวางไว้ในบริเวณที่ไม่มีการใช้งานมาก เช่นห้องนอน ก็สามารถเลือกพรมที่มีลักษณะสวยงามปกติ ไม่ต้องคุณภาพดีมากก็ได้ แต่หากนำไปไว้ในบริเวณที่มีการใช้งานหนัก เช่นทางเดิน ห้องรับแขก หรือบันได ก็ควรที่จะเลือกที่มีความหนาและคุณภาพดีขึ้นมาหน่อย เพื่อให้ทนทานต่อการใช้งานได้ดี และทางที่ดีก็ควรจะเลือกพรมให้ถูกกับประเภทการใช้งานที่สุด เพื่อความทนทานและการใช้งานที่ยาวนานที่สุด
เป็นไงบ้างคะสำหรับเทคนิคการเลือกพรมที่จะช่วยให้การแต่งห้องของคุณนั้นเป็นเรื่องสนุกขึ้น โดยผู้อ่านสามารถนำไปเลือกใช้เพื่อซื้อพรมเพื่อตกแต่งห้องให้เหมาะสมกับห้อง และเหมาะกับการใช้งานของคุณ ไม่ว่าจะในบริเวณไหนก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไปแล้ว สำหรับใครที่ต้องการที่จะเลือกพรมแต่งห้อง จากสินค้าจาก“ชิปปิ้งจีน“ Weshopchina ก็มีสินค้าจากชิปปิ้งจีนมากมายให้คุณเลือกสรรกว่า 1,000,000 ชิ้น จากเว็บสั่งสินค้านำเข้าชื่อดังจากจีน โดยนำเข้าผ่านชิปปิ้งจีนให้มาถึงมือคุณอย่างรวดเร็วจากผู้ให้บริการที่มีความเชี่ยวชาญและเป็นมืออาชีพ และสามารถตรวจสอบสถานะสินค้าได้ตลอด 24 ชั่วโมง อยากรู้ว่ามีสินค้าจากชิปปิ้งจีนอะไรบ้างใน Weshopchina คลิกเลย!!
.
.
ขอบคุณข้อมูลอ้างอิงจาก