ชิปปิ้งจีน ผู้ประกอบการธุรกิจ E-Commerce ส่วนใหญ่ มักจะเริ่มต้นช่องทางการจำหน่ายสินค้าเพียงช่องทางเดียว เช่น เว็บไซต์ เพจเฟซบุ๊ค อินสตาแกรม ไลน์แอด ฯลฯ แต่สำหรับผู้ค้าปลีกที่มีช่องทางการจำหน่ายที่หลากหลายหรือมากกว่า 1 ช่องทาง ถือเป็นกลยุทธ์การกระจายความเสี่ยงที่ชาญฉลาดและมีประสิทธิภาพ
เพราะไม่เพียงแค่เพิ่มการเข้าถึงธุรกิจเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึง โอกาสในการจำหน่ายสินค้าก็ย่อมสูงตามไปด้วย เนื่องจากผู้คนย่อมมีโอกาสมองเห็น ‘ร้านค้า’ และ ‘สินค้า’ ได้มากกว่า
อย่างไรก็ตาม Weshopchina สรุปช่องทางมัลติมีเดียในปัจจุบันนี้ ได้มีอยู่มากมาย ซึ่งการค้าปลีกแบบหลากหลายช่องทาง มีประโยชน์ดังนี้
- เพิ่มความยืดหยุ่นสำหรับผู้บริโภค เมื่อซื้อและชำระเงินค่าสินค้าและบริการ
- โอกาสเพิ่มเติมในการสร้างแบรนด์ ในกลุ่มผู้บริโภคที่หลากหลาย
- เข้าถึงลูกค้าได้ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อสร้างความภักดีต่อแบรนด์
- ช่วยเพิ่มการมองเห็นที่มากขึ้นและดีขึ้น ในกลุ่มผู้บริโภคที่หลากหลาย
- ปรับปรุงการวิเคราะห์ เพื่อช่วยให้เข้าใจพฤติกรรมผู้บริโภค
ในการขยายธุรกิจ E-Commerce ของร้านค้าออนไลน์มีผลต่อธุรกิจชิปปิ้งจีนเช่นกัน ร้านค้าออนไลน์ควรมีช่องทางการจำหน่ายของร้านค้าในทุกช่องทางเพื่อให้ลูกค้ามองเห็น เช่น e-Bay Amazon Google Shopping และ Jet โดยมีเครื่องมือทางการตลาดเข้ามาช่วยเสริมทัพ ผ่านแพลตฟอร์มต่างๆ เหล่านี้ เช่น Facebook Instagram และ Pinterest ซึ่งรองรับการขายตรง แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียเองก็กำลังมองหาการทำธุรกรรม ผู้ใช้จะสามารถทำการซื้อได้โดยไม่ต้องออกจากแพลตฟอร์ม การทำธุรกิจหลายช่องทางก็ส่งผลดีต่อธุรกิจชิปปิ้งจีนเช่นกัน
ตัวบ่งชี้แนวโน้มที่สำคัญ
- 87% ของผู้ซื้อ E-Commerce เชื่อว่าโซเชียลมีเดีย ช่วยให้พวกเขาตัดสินใจซื้อสินค้าได้
- 1 ใน 4 ของเจ้าของธุรกิจ E-Commerce ขายผ่านทาง Facebook
- 40% ของผู้ค้าใช้โซเชียลมีเดีย เพื่อสร้างยอดขาย
- 30% ของผู้บริโภค กล่าวว่าพวกเขาจะทำการสั่งซื้อโดยตรงผ่านแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย
ด้วยสถิติเหล่านี้ จึงไม่สามารถทำการชำระเงินหรือจ่ายเงินได้บนโซเชียลมีเดีย หรือไม่ได้ทำการโฆษณาลงบนโซเชียลมีเดีย สิ่งนี้อาจกลายเป็นเหตุผลให้ร้านค้าสูญเสียโอกาสในการจำหน่ายบนโซเชียลไปอย่างน่าเสียดาย
การซื้อโซเชียล ถือเป็นมาตรฐานในประเทศจีน ซึ่ง 55% ของผู้ใช้แอปฯ โซเชียล ได้รายงานการซื้อสินค้าหรือบริการชิปปิ้งจีนโดยตรงบนโซเชียล ตามรายงานการซื้อสินค้าหรือบริการผ่านบนโซเชียลแอปฯ ในตลาดเกิดใหม่ เช่น เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บัญชีการซื้อทางโซเชียลคิดเป็น 30% ของยอดขายออนไลน์ทั้งหมด
การทำความเข้าใจเกี่ยวกับช่องทางของผู้ซื้อและการใช้กลยุทธ์หลายช่องทาง ช่วยให้ร้านค้าได้เปรียบในการแข่งขัน ผู้บริโภคอาจค้นพบผลิตภัณฑ์ของร้านค้าผ่านทางโซเชียลมีเดีย หรือผ่านจากผู้มีอิทธิพล (Influencers) ที่ผู้บริโภคได้ติดตามบน Instagram การช็อปปิ้งในความเป็นจริง ผู้บริโภคมากกว่าครึ่งเริ่มค้นหาผลิตภัณฑ์ใน Amazon ผ่านทาง Google แล้ว
อย่างไรก็ตาม แม้ว่า Facebook จะมีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนมากกว่าเครือข่ายโซเชียลอื่นๆ แต่มันก็อาจไม่เหมาะกับธุรกิจบางประเภท เช่น Linkedln หรือ Twitter หากแต่ธุรกิจประเภท B2C (Business to Customer : ธุรกิจระหว่างธุรกิจกับลูกค้า) มักประสบความสำเร็จบน Facebook แต่หากเป็นธุรกิจ B2Bs (Business to Business : ธุรกิจระหว่างผู้ประกอบการกับผู้ประกอบการด้วยกัน) อาจไม่สำเร็จบนช่องทาง Facebook แต่อาจไปด้วยดีกับ Linkedln ถือเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับธุรกิจนี้
สุดยอดธุรกิจที่เหมาะสำหรับ Facebook
ฟีเจอร์หนึ่งที่ Facebook นำเสนอ โดยที่โซเชียลมีเดียอื่นๆ ไม่มีอยู่ในแคตตาล็อกผลิตภัณฑ์ ด้วยคุณสมบัติที่ร้านค้าสามารถเชื่อมโยงสินค้าคงคลังในร้านค้า E-Commerce ของตัวเองกับโปรไฟล์ธุรกิจ Facebook ของคุณ และเริ่มขายผลิตภัณฑ์เดียวกันเหล่านั้นได้โดยตรงบน Facebook ธุรกิจต่อไปนี้ จึงประสบความสำเร็จอย่างมากกับการจำหน่ายผ่าน Facebook
- เสื้อผ้าและเครื่องแต่งกาย
- แพ็กเกจสินค้าอุปโภคบริโภค
- ผลิตภัณฑ์ของขวัญ
- ของตกแต่งบ้าน
- ผลิตภัณฑ์เสริมความงาม
- ธุรกิจเกี่ยวกับออกกำลังกาย
สุดยอดธุรกิจสำหรับ Pinterest
ธุรกิจ E-Commerce ที่สามารถใช้ประโยชน์จาก Pin ทำได้ง่ายๆ เพียงเชื่อมต่อ Pinterest กับแพลตฟอร์ม E-Commerce ของร้านค้า โดย Pinterest สามารถเชื่อมโยงได้กับแพลตฟอร์มที่เป็นที่รู้จัก เช่น Shopify, Magento หรือ BigCommerce หมวดหมู่สินค้าและบริการที่ขายดีที่สุดใน Pinterest ได้แก่
- ตกแต่งบ้าน หรือ บริการตกแต่งใหม่
- การจัดสวนหรือภูมิทัศน์
- เสื้อผ้า
- บริการแต่งหน้า
- ศิลปะและงานฝีมือ
- การท่องเที่ยว
- อาหารและเครื่องดื่ม
- สุขภาพและการพัฒนาตนเอง
สุดยอดธุรกิจสำหรับ Snapchat
การจำหน่ายสินค้าและบริการผ่าน Snapchat ยังถือเป็นเรื่องใหม่ แต่กลับเป็นช่องทางที่ดีมาก โดยทั่วไปแล้วธุรกิจที่ประสบความสำเร็จมากที่สุด ได้แก่
- ร้านค้าปลีกเครื่องแต่งกาย
- ร้านอาหาร
- กิจกรรม
- อุปกรณ์เทคโนโลยี
- บริษัทท่องเที่ยว
เคล็ดลับที่มีประโยชน์อีกข้อหนึ่ง คือการทำตลาดซ้ำๆ ในทุกช่องทาง เพราะทุกช่องทางต่างมีเอกลักษณ์ไม่เหมือนกัน การทำการตลาดใหม่แบบไดนามิก จะช่วยให้ร้านค้าสามารถแสดงโฆษณาผลิตภัณฑ์ให้กับลูกค้า หรือผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าที่ได้เข้าชมเว็บไซต์ของร้านค้า ผลิตภัณฑ์ที่ผู้บริโภคดูในเว็บไซต์ของร้านค้าจะทำการตลาดอีกครั้งผ่านข้อความ ที่ได้ปรับให้เหมาะสมกับพฤติกรรมของผู้ซื้อ ในขณะที่แพลตฟอร์มโฆษณาบางแห่งระบุลูกค้าแต่ละรายตามคุกกี้หรือเชื่อมโยงผู้บริโภคแต่ละรายด้วยรหัสเฉพาะ เพื่อให้ทราบถึงผลิตภัณฑ์ที่พวกเขาดู ซึ่งสิ่งนี้สามารถนำไปสู่การเพิ่มยอดขายที่สูงขึ้นตามไปด้วย ธุรกิจชิปปิ้งจีนก็เติบโตตามด้วยเช่นกัน
อ้างอิงข้อมูล : https://bit.ly/2tblbb3